วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553

พรหมคีรีเมืองน่าอยู่

อำเภอพรหมคีรี หมายถึงสถานที่สิงสถิตย์ของพระพรหม เมืองผลไม้ดก น้ำตกสวย รวยนักการเมือง คำขวัญประจำอำเภอพรหมคีรี ซึ่งเป็นอำเภอที่มีความสวยงามทางธรรมชาติมีพื้นที่ติดกับเทือกเขาหลวงนครศรีธรรมราช ที่มียอดเขาสูงที่สุดในภาคใต้ สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,835 เมตร ทำให้สภาพพื้นที่บริเวณนี้มีความชุมชื้นสูง เป็นแหล่งทรัพยากร ต้นน้ำลำธาร หลายสายก่อให้เกิดน้ำตกที่สวยงาม เช่น น้ำตกพรหมโลก น้ำตก อ้ายเขียว น้ำตกสองรัก น้ำตกพรหมประทาน น้ำตกพรหมพิมาน และน้ำตกพิมานเมฆ ลำคลองทุกสายทุกสายที่ไหลมาหล่อเลี้ยง ให้ความชุมชื้นตลอดทั้งปี พรหมคีรีเป็นอำเภอเก่าแก่ที่มีคนอาศัยมากกว่า 200 ปี สภาพพื้นที่ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด ประชาชนส่วนใหญ่ปรกอบอาชีพทำสวนผลไม้ ที่กลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุด จนกระทั่ง ผลไม้ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นราชินีผลไม้ ส่งออกไปขายทั่วโลก นั่นก็คือ “มังคุดพรหมคีรี” พืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้ นอกจากปลูกมังคุดแล้วยังมี ยางพารา และผลไม้อื่นๆมากมาย เช่น เงาะ ทุเรียน ลองกอง ลางสาด จำปาดะ สะตอ หมาก พลูฯลฯ หรือที่ปลูกรวมกันหลายๆชนิด เรียกรวมกันว่า “สวนสมรม”
ชาวพรหมคีรีสมัยก่อน จะปลูกผลไม้ไว้กินเอง กับหาของป่าล่าสัตว์ จับปลาในห้วย หนองคลอง บึง เจ็บป่วยก็รักษาด้วยยาสมุนไพร การเดินทางติดต่อก็ใช้เกวียน และเรือขุด ซึ่งเป็นเรือที่ทำมาจากท่อนซุงขนาดใหญ่ ขุดเจาะ จนเป็นรูปเรือโดยไม่มีรอยต่อ แล้วล่องไปตามลำคลอง เพื่อลำเลียงผลไม้ ไปแลกเปลี่ยนกับข้าว ปลา อาหารทะเล กับชาวอำเภอ ปากพนัง หัวไทร เชียรใหญ่ ซึ่ง เรียกรวมๆว่า “ชาวนอก” ส่วนชาวพรหมคีรี ลาสกา รวมทั้งชาวชนบทที่ตั้งถิ่นฐาน อยู่แถบทิศตะวันออกของ เขาหลวง ซึ่งมีอาชีพทำไร่ ทำสวนผลไม้ ก็ถูกเรียกว่า “ชาวเหนือ” ส่วนพวกที่อาศัยอยุ่ระหว่างต้นน้ำ กับปลายน้ำ เรียกว่า “ชาวเมือง “ซึ่งหมายถึงอำเภอเมืองในปัจจุบัน

อาณาเขตการปกครอง
อำเภอพรหมคีรีเดิม อยู่ในเขตการปกครองของอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ต่อมาปี พ.ศ.2517 กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศให้ตำบลพรหมโลก ตำบลบ้านเกาะ ตำบลอินคีรี ยกฐานะเป็นกิ่งอำเภอ ตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ.2517 โดยมีที่ทำการครั้งแรก ที่ศาลาการเปรียญวัดพรหมโลก พ.ศ.2519 ได้แยกหมู่บ้านใน ตำบลอินคีรี มาตั้งใหม่หนุ่งตำบล คือ ตำบลทอนหงส์ พ.ศ.2524 กิ่งอำเภอพรหมคีรีได้ยกฐานะเป็นอำเภอ ตามพระราชกฤษฎีกา และแยกหมู่บ้านจาก ตำบลพรหมโลก และตำบลบ้านเกาะ จัดตั้งใหม่อีกตำบล คือตำบลนาเรียง
ปัจจุบันแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 5 ตำบล มีเขตเทศบาลพรหมโลก และ เทศบาลทอนหงส์ มีหมู่บ้าน 37 หมู่บ้าน
ที่ตั้ง
ทิศเหนือ จด บางส่วนของกิ่งอำเภอนบพิตำและ อำเภอท่าศาลา
ทิศใต้ จด บางส่วนของอำเภอลานสกาและ อำเภอเมือง
ทิศตะวันออก จด บางส่วนของอำเภอท่าศาลาและ อำเภอเมือง
ทิศตะวันตก จด บางส่วนของอำเภอลานสกาและเทือกเขาหลวง

ลักษณะทางภูมิประเทศ
อำเภอพรหมคีรีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบและที่ราบสูงเชิงเขา ดินก็จะเกิดจากการผุผังของหินอัคนี และมีหินปูนผสมเป็นหย่อมๆ
ลักษณะของป่าไม้ เนื่องจากพื้นที่บางส่วนตั้งอยู่บนเทือกเขาหลวง มีปริมาณน้ำฝน เฉลี่ยสูงตลอดปี ป่าแถบนี้เป็นป่าดิบชื้น ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นลักษณะย่อยๆได้ตามระดับความสูงของพื้นที่ และลักษณะของพืชเด่นที่ขึ้นบริเวณนั้นๆ ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ทำให้ยังคงมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ ที่พบเห็นได้ง่าย เช่น หมูป่า ค่าง ชะนี กระจง ชะมด เม่น นกนานาชนิด
ป่าดิบชื้นในพื้นที่ต่ำ คือป่าที่อยู่พื้นที่ราบสูงไม่เกิน 300 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีพืชพรรณไม้หลายชนิดขึ้นอยู่หนาแน่น มีเรือนไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ลดหลั่นกันไป เป็นสามระดับชั้น ตามพื้นป่าจะเป็นไม้พุ่ม และพืชคลุมดิน ตลอดจนไม่เถาวัลย์ เฟิร์น บอน ขิง ข่า เตย หวาย
ป่าดิบชื้นเขา คือป่าที่อยู่ในพื้นที่สูงกว่า 300 แต่ไม่เกิน1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีลักษณะโครงสร้างคล้ายป่าประเภทแรก แต่มีพวกพญาไม้ เต่าร้างยักษ์ มหาสดำหรือเฟิร์นยักษ์ เป็นพืชเด่น ขึ้นอยู่ตามหุบเขาที่มีลำธารน้ำไหลผ่าน
ป่าดิบเขาต่ำ คือป่าที่อยู่ในพื้นที่สูงกว่า1,000 เมตร แต่ไม่เกิน 1,500เมตรจากระดับน้ำทะเล มีลักษณะของพรรณไม้แตกต่างจาก 2 พวกแรกอย่างเด่นชัด บริเวณนี้มีเมฆหมอกและความชื้นในอากาศสูงอยู่เสมอ ไม้ยืนต้นที่เด่นๆได้แก่ ไม้แดงเขา ไม้มังตาน พืชชั้นต่ำจำพวก มอส เฟิร์น ขนาดเล็กจะเกาะอาศัยอยู่ทั่วไปตามเปลือกไม้และโขดหิน
ป่าดิบเขาเขา คือป่าที่อยู่ในพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,500เมตรขึ้นไป มีเมฆปกคลุมตลอดทั้งปี หรือเรียกอีกชื่อว่า ป่าเมฆ ป่าบริเวณนี้จะมีลมพัดแรง อากาศหนาวเย็น ความชื้นสัมพัทธ์สูงเกือบ 100เปอร์เซ็นต์ ไม้ยืนต้นส่วนใหญ่มีรูปร่างแคระแกร็น สูงประมาณ 3-5 เมตร พื้นที่บริเวณนี้จะมีมอส เฟิร์น ที่สำคัญคือเฟิร์น บัวแฉกใหญ่ บัวแฉกใบมน ขึ้นตามยอดเขา ไม้ที่สำคัญได้แก่ ตะเคียน จำปาป่า หลุมพอ ยาง กระบก อบเชย ไม้หอม นอกนั้นยังพบไม้ตระกูลหวาย เตาร้างยักษ์ เต่าร้างแดง บัวแฉก ซึ่งพบ เฉพาะในเขตเขาหลวงนครศรีธรรมราชเท่านั้น
ลักษณะภูมิอากาศ
เป็นแบบคาบสมุทร มีฝนตกตลอดปี ฤดูฝนจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และ ตกหนักในเดือนตุลาคมถึงธันวาคม ฝนจะเริ่มน้อยลงในเดือน มกราคม ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน จัดได้ว่าเป็นระยะฝนทิ้งช่วงโดยตกน้อยกว่าเดือนอื่นๆ
สถานที่ท่องเที่ยว

ทิวเขานครศรีธรรมราช มีภูเขาสูงจำนวนมากมาย โดยเฉพาะเป็นจุดกำเนิดของน้ำตกขนาดใหญ่ ที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมมากมาย สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่โดยการนำผัก ผลไม้ที่เก็บมาจากสวน มาวางขายเส้นทางผ่าน สองข้างทาง
น้ำตกพรหมโลก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จประพาสเมื่อปี พ.ศ.2502 ดังมีพระปรมาภิไธยย่อของทั้งสองพระองค์ จารึกอยู่บนผาน้ำตก มีความสวยงามท่ามกลางป่าเขาหลวง มีลานหินขนาดใหญ่ และแอ่งน้ำที่รองรับน้ำที่ตกมาจากหน้าผาสูง ลดหลั่นกันไปมีด้วยกันทั้งหมด 4ชั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชม เดินทางลัดเลาะไปตามริมผาสูงชันไปยังชั้นต่างๆ และสายน้ำไหลไปจากน้ำตก เรียกว่าคลองนอก ที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี การเดินทางไปยังน้ำตกพรหมโลกมาตามถนนสาย นคร-นบพิตำ ทางหลวง 4016 ถึงสี่แยกพรหมโลกเลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 5กิโลเมตร
น้ำตกอ้ายเขียว น้ำตกขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่ง การเกินทางก็สะดวกสบายไปตามถนนสาย 4016 เลยมางเข้าน้ำตกพนกมโลกปีอีก 2กิโลเมตร แล้วเลียวซ้ายตรงเข้าไปอีกประมาณ 5กิโลเมตร สองข้างทาง จะเต็มไปด้วยสวนผลไม้ หรือสวนสมรม ที่ปลูกหลายชนิด กลมกลืนไปกับธรรมชาติ โดยยังคงรักษาสภาพผืนป่าไว้ น้ำตกอ้ายเขียวมีทั้งหมด 19 ชั้น ลดหลั่นกันไป ไม่สูงชันเหมือนน้ำตกพรหมโลก
วัดเขาขุนพนม แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และโบราณคดี และเป็นศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ อีกทั้งเป็นที่ตั้งของพระตำหนักเมืองนคร ที่ประทับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ที่อยู่ด้านทิศตะวันตกของวัดเขาขุนพนม
พระธาตุชัยมณีศรีฆโลก วัดเขาปูน ตามความเชื่อของชาวบ้านถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีเทวดาสองพี่สิงสถิตย์อยู่ และเมื่อพ.ศ.2528 ท่านอาจารย์แก้ว ปุญญภาโค ได้ธุดงค์มาปฏิบัติธรรม ได้นิมิตว่าสร้างพระธาตุบนเขาปูน อีกทั้งชาวบ้านศรัทธา ช่วยสละเงินคนละเล็กละน้อย ปรับพื้นที่บนเขาปูน เมื่อประชาชนทั่วสารทิศ ทราบข่าวก็เดินทางมาช่วยเหลือทำบุญ สมทบทุนจนสร้างพระธาตุเสร็จใน พ.ศ.2530 และนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ มาก่อสร้างขึ้นมากมายดังที่พบเห็นในปัจจุบัน

2 ความคิดเห็น:

ชา กล่าวว่า...

ได้มีโอกาศไปงานศพของคุณพ่อผู้ใหญ่ มาโนช หมื่นพรหมที่เภอพรหมคีรีและได้โอกาศไปแวะชมน้ำโดตกพรหมโลกที่สวยมากๆๆครับโดยมีการแนะนำของน้องชุ

Unknown กล่าวว่า...

ยินดีต้อนรับสู่พรหมคีรีค่ะ